นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

บริษัท ทีซอฟท์สไมล์ จำกัด

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

บริษัท ทีซอฟท์สไมล์ จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการได้รับความไว้วางใจจากท่านผู้ใช้บริการ ให้ท่านได้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับจะถูกนำไปใช้ตรงตามความต้องการของท่านและถูกต้องตามกฎหมาย จึงได้จัดทำนโยบายนี้เพื่ออธิบายถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย ตลอดจนสิทธิตามกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทจึงประกาศนโยบายส่วนบุคคลของบริษัทให้ท่านได้รับทราบ ดังต่อไปนี้

นิยาม

กลุ่มบริษัท

หมายถึง บริษัท ทีซอฟท์สไมล์ จำกัด

ข้อมูลส่วนบุคคล

หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เว็บไซต์

หมายถึง เว็บไซต์ และ/หรือ แอปพลิเคชัน ซึ่งให้บริการโดยกลุ่มบริษัท ที่ติดตั้งหรือให้บริการบนเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด

ผู้ใช้บริการ

หมายถึง บุคคล หรือนิติบุคคล ที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ที่ติดต่อผ่านช่องทางต่างๆ ของกลุ่มบริษัท ได้แก่

เว็บไซต์/ แอปพลิเคชัน/ อีเมล/ ข้อความ (SMS)/ โทรศัพท์ /ไปรษณีย์ หรือช่องทางอื่นใดๆ ที่จะมีขึ้นในอนาคต

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ได้แก่

    • ชื่อ-นามสกุล, สถานที่ติดต่อ, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล, ไอดีไลน์

    • หมายเลขบัตร อาทิ เลขบัตรประจำตัวประชาชน, เลขหนังสือเดินทาง, เลขบัตรประกันสังคม

      เลขใบอนุญาตขับขี่, เลขประจำตัวผู้เสียภาษี, เลขบัญชีธนาคาร, เลขบัตรเครดิต

    • ภาพสำเนาบัตร และ/หรือเอกสาร ที่มีข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ภาพสำเนาบัตรประชาชน, ภาพสำเนาใบขับขี่, ภาพสำเนาทะเบียนบ้าน, ภาพสำเนาทะเบียนรถ, ภาพสำเนากรมธรรม์ประกันภัย, ภาพสำเนาบัตรเครดิต, ภาพสำเนาเอกสารทางการเงิน

    • ข้อมูลที่ระบุทรัพย์สินของบุคคล อาทิ ทะเบียนรถ

    • ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน รายได้ การใช้จ่าย การกู้ยืมเงิน การชำระหนี้

    • ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ อาทิ IP address, MAC address, Cookie ID

    • ข้อมูลบันทึกต่างๆ ที่ใช้ติดตามตรวจสอบกิจกรรมต่างๆ ของบุคคล อาทิ Log file, ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์

    • ข้อมูลที่สามารถใช้ในการค้นหาข้อมูลส่วนบุคคลอื่นในอินเตอร์เน็ต

    • ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งาน (Account) หรือข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้แก้ไขปรับปรุงในบัญชีผู้ใช้งานของเจ้าของข้อมูล

    • ข้อมูลการประเมินผลการปฏิบัติงานพนักงาน

    • ข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงไปยังข้อมูลข้างต้นทำให้สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ อาทิ วันเดือนปี เกิด, สัญชาติ, ข้อมูลการศึกษา, ข้อมูลทางการเงิน, ข้อมูลการจ้างงาน

  2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน (Sensitive Data)

    • อาทิ เชื้อชาติ, ศาสนา, รูปภาพใบหน้า, ลายนิ้วมือ, ข้อมูลอัตลักษณ์เสียง

แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก 2 ช่องทาง ดังนี้

  1. บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยบริษัทจะเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากขั้นตอนการให้บริการดังนี้

    • จากการสมัครใช้บริการกับบริษัท หรือขั้นตอนการยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่างๆ กับบริษัท

    • จากความสมัครใจของท่านในการส่งคำร้องขอเพื่อให้บริษัทพิจารณาตามคำร้อง

    • จากการที่ท่านติดต่อกับบริษัทตามช่องทางการสื่อสารต่างๆ ระหว่างบริษัทกับท่าน

    • จากข้อมูลการใช้เว็บไซต์ของบริษัทผ่าน browser’s cookies ของท่าน

    • จากการทำธุรกรรมสัญญา

    • จากการทำแบบสำรวจ การร่วมกิจกรรมต่างๆ

  2. บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม ดังต่อไปนี้

    • จากบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่เป็นคู่สัญญากับบริษัท

    • จากบริษัทประกันภัย และบริษัทประกันชีวิต ที่บริษัทเป็นคู่สัญญาในฐานะนายหน้าประกันภัย

    • จากบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด

    • จากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด

วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล

บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

  1. เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการใดๆ ของบริษัท และ/หรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท ทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล

  2. เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอใช้บริการของท่าน

  3. เพื่อการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับกระบวนการสินเชื่อ

  4. เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาและการปฏิบัติตามเงื่อนไขการให้บริการของบริษัท

  5. เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

  6. เพื่อบริหารจัดการเกี่ยวกับกรมธรรม์ของท่าน

  7. เพื่อการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับการบริการ การควบคุมคุณภาพของการให้บริการ หรือการดูแลลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

  8. เพื่อเป็นการจัดการเกี่ยวกับการบริการหลังการขาย เพื่อให้ท่านได้ประโยชน์สูงสุด

  9. เพื่อการจัดทำการบริการทางดิจิทัล

  10. เพื่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการตลาด และการวิจัยตลาด

  11. เพื่อการสมัครงานผ่านทางเว็บไซต์ หรือช่องทางอื่นของบริษัท

การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งที่มาของข้อมูลแล้ว บริษัทจะดำเนินการดังนี้กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  • การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

  • บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในรูปเอกสาร และ/หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการ หรือบริการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทและในระยะเวลานานเท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้เท่านั้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้องสมบูรณ์และเป็นปัจจุบันที่สุดและท่านยินยอมมอบข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทโดยชอบด้วยกฎหมาย

    บริษัทอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเข้ากับข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากแหล่งอื่นเฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็นและได้รับความยินยอมจากท่านเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบันและเพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของการให้บริการของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น

  • การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

  • บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อการทำงาน การดำเนินธุรกิจของบริษัท เพื่อให้ท่านได้รับบริการที่ดี บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือเพื่อปรับปรุงบริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อพัฒนามาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศในการบริหารจัดการความเสี่ยง ตรวจจับ ป้องกันกิจกรรมที่มีแนวโน้มในการละเมิดกฎหมาย ระเบียบการใช้งานที่เกี่ยวข้องหรือข้อตกลง เงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงเพื่อติดต่อท่านผ่านทางโทรศัพท์ ข้อความ (SMS) อีเมล หรือไปรษณีย์ หรือผ่านช่องทางใดๆ เพื่อสอบถาม หรือแจ้งให้ท่านทราบ หรือตรวจสอบและยืนยันข้อมูล หรือสำรวจความคิดเห็น หรือแจ้งข้อมูลข่าวสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และการให้บริการของบริษัทตามที่จำเป็น

  • การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สาม เพื่อประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการในด้านต่างๆ แก่ท่านมากยิ่งขึ้น หรืออำนวยความสะดวกอื่นใดแก่ท่านได้อย่างถูกต้อง ต่อเนื่องเพื่อให้ท่านสามารถทำธุรกรรมที่ท่านประสงค์ได้สำเร็จลุล่วง โดยการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าวนั้น บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ และ มิให้ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหรือเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่

    • เป็นไปเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น

    • เป็นไปเพื่อประโยชน์กับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ใช้บริการท่านอื่น

    • เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาคดีของศาล

    • เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย

    ทั้งนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลต่างๆ ตามที่ระบุด้านล่างนี้

  1. ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง บุคลากร ของบริษัทที่การปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล

  2. ผู้ถือหุ้นของบริษัท

  3. พันธมิตรของกลุ่มบริษัท

  4. ได้แก่ บริษัทประกันภัย, บริษัทประกันชีวิต, บริษัทหลักทรัพย์, บริษัทจัดการกองทุน

  5. ที่ปรึกษาวิชาชีพต่างๆ

  6. ได้แก่ ที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษากฎหมาย ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายใน ผู้ตรวจสอบภายนอก

  7. ผู้ให้บริการต่างๆ ที่ให้บริการแก่กลุ่มบริษัท

    ได้แก่

    ผู้ให้บริการจัดการโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีสารสนเทศ

    ผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลรวมถึงผู้ให้บริการคลาวด์

    ผู้ให้บริการทางการตลาด ซึ่งรวมถึงผู้ให้บริการในการจัดทำข้อมูลและสถิติด้วย

    ผู้ให้บริการงานโฆษณา งานประชาสัมพันธ์ และการติดต่อสื่อสาร

    ผู้ให้บริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบและเครือข่ายชำระเงิน

    ผู้ให้บริการยืนยันตัวตนต่างๆ

    ผู้ให้บริการติดตามหนี้

    ผู้ให้บริการตรวจสภาพทรัพย์สิน

    ตัวแทนรับชำระเงิน

  8. สถาบันการเงินและบุคลากรภายนอกอื่นที่กลุ่มบริษัทใช้บริการเพื่อการให้บริการแก่ท่าน

  9. บุคคลอื่นใดที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่มีกฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง คำสั่งของหน่วยงานราชการ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล หรือคำสั่งของหน่วยงานตุลาการให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กลุ่มบริษัทจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

  10. ผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือหน้าที่จากบริษัทใดในกลุ่มบริษัท ในกรณีที่บริษัทใดในกลุ่มบริษัทประสงค์จะโอนสิทธิ และหน้าที่ของบริษัทนั้นๆ รวมถึงการโอนกิจกรรมบางส่วนหรือทั้งหมด การควบรวมกิจการ และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการถือหุ้นบริษัท บริษัทนั้นๆ จำเป็นจะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้รับโอน (รวมถึงผู้ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้รับโอน) โดยสิทธิและหน้าที่ของผู้รับโอนในส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามนโยบายฯ ฉบับนี้ด้วย

การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัททำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้

  1. จัดเก็บในรูปแบบเอกสาร และ/หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

  2. จัดเก็บ ณ สถานที่ที่มีการจำกัดสิทธิการเข้าถึง/ เก็บไว้ใน Server / เก็บไว้บน Cloud ที่เป็นผู้ให้บริการของกลุ่มบริษัท

  3. ระยะเวลาเก็บข้อมูลส่วนบุคคลกลุ่มบริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้าหรือมีความสัมพันธ์อยู่กับกลุ่มบริษัท หรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จัดเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี

    ทั้งนี้ บริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

การรักษาความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของระบบสารสนเทศตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 27001:2013 ในการป้องกันการเข้าถึง หรือการแก้ไขข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยใช้วิธีการเข้ารหัสและ/หรือ ความปลอดภัยทางกายภาพที่เหมาะสมและมีการตรวจสอบการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว รวมถึงใช้มาตรการเชิงบริหารจัดการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อประโยชน์ในการรักษาความลับและความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทได้จำกัดสิทธิในการเข้าถึงหรือเข้าใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพียงบุคลากรของบริษัทที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่ทั้งนี้ บริษัทอาจมีการใช้บริการจากบุคคลและ/หรือนิติบุคคลภายนอกที่เข้ามาดำเนินการในนามของบริษัท ซึ่งบุคคลเหล่านี้มีหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความลับของข้อมูล และอาจถูกเลิกจ้างและดำเนินคดีทางอาญา หากฝ่าฝืนข้อกำหนดเหล่านี้

สิทธิของเจ้าของข้อมูล

ท่านมีสิทธิในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้

  1. สิทธิการให้ความยินยอม

    ท่านมีสิทธิเลือกที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่บริษัทร้องขอ และยินยอมให้บริษัทจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว หรือไม่ก็ได้ เพียงแต่ท่านต้องรับทราบว่าการให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ครบถ้วนตามที่บริษัทร้องขอ หรือการไม่ให้ความยินยอมในการจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอาจทำให้ท่านถูกจำกัดสิทธิการใช้บริการบางอย่างของบริษัท หรือส่งผลให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้เลยหากข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต่อบริษัทในการให้บริการแก่ท่าน

  2. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

    ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท โดยการถอนความยินยอมของท่านจะไม่กระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวอาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านต่อไปได้

  3. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

    ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว หรือขอให้บริษัทส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่เจ้าของข้อมูลเองหรือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (หากข้อมูลดังกล่าวอยู่ในรูปแบบที่สามารถดำเนินการดังกล่าวได้) รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านหากข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมในการจัดเก็บ

  4. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

    ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจัดเก็บไว้เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

  5. สิทธิในการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล

    ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัททำการลบ หรือ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถใช้ระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ หากท่านเพิกถอนหรือคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน หรือเมื่อไม่มีความจำเป็นที่จะต้องประมวลผลตามวัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ หรือเมื่อบริษัทไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  6. สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

    ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการชั่วคราวได้ หากบริษัทอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือตรวจสอบคำคัดค้านของท่าน นอกจากนี้ในกรณีที่ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านอาจขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลดังกล่าวแทนการลบหรือการทำลายก็ได้

  7. สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

    ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้

  8. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

    ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากข้อมูลนั้นบริษัทจัดเก็บโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน

ทั้งนี้ บริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคําร้องของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับคําร้องขอดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจปฏิเสธสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ในกรณีที่กฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลถูกทำให้ไม่ปรากฏ ชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้อีก

นโยบายคุกกี้

บริษัทใช้คุกกี้ (cookies) หรือไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กเพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล Log การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท โดยคุกกี้จะถูกดาวน์โหลดเก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้งานเพื่อระบุอุปกรณ์การใช้งานของผู้เข้าใช้แต่จะไม่ระบุตัวบุคคลผู้เข้าใช้งาน ทั้งนี้การวิเคราะห์อาจทำโดยบุคคลอื่นที่ให้บริการ หรือได้รับมอบหมายให้กระทำการแทนในนามของบริษัท เช่น Google Analytics เป็นต้น

บริษัทจะใช้คุกกี้เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประสิทธิภาพในการเข้าถึงบริการต่างๆ ในเว็บไซต์ของบริษัทผ่านอินเตอร์เน็ต รวมถึงพัฒนาประสิทธิภาพในการใช้งานบริการของบริษัททางอินเตอร์เน็ต โดยจะใช้เพื่อกรณีดังต่อไปนี้

  1. เพื่อให้ท่านสามารถ sign in บัญชีของท่านในเว็บไซต์ของบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง

  2. เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อนำไปพัฒนาให้สามารถใช้งานได้ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

    เมื่อมีการเข้าใช้บริการเว็บไซต์ของบริษัทอย่างต่อเนื่องโดยไม่เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าบนอินเตอร์เน็ตเบราว์เซอร์ อุปกรณ์ของท่านจะยอมรับคุกกี้ไปโดยอัตโนมัติ เมื่อมีการเข้าใช้งานครั้งต่อไป ซึ่งหากท่านไม่ต้องการให้คุกกี้ทำการรวบรวมข้อมูล สามารถเลือกเปลี่ยนแปลงการตั้งค่ายอมรับที่ส่วน “การตั้งค่า” ของแถบเครื่องมือบนอินเตอร์เน็ตเบราว์เซอร์ได้

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ website อื่น

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ใช้เฉพาะสำหรับการให้บริการของบริษัทและการใช้งานเว็บไซต์ ของบริษัทเท่านั้น หากท่านได้กด link ไปยังเว็บไซต์อื่น (แม้จะผ่านช่องทางในเว็บไซต์ของบริษัทก็ตาม) ท่านจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้นๆ แยกต่างหากจากของบริษัท

การเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เราขอสงวนสิทธิ์ในการทบทวน เพิ่ม เปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้ในอนาคต เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการ และการดำเนินงานของเราเพื่อความเหมาะสมและประสิทธิภาพในการให้บริการ

ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบผ่านเว็บไซต์ของบริษัทโดยเร็วที่สุด ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ท่านอ่านนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทุกครั้งที่ใช้บริการ

เป้าหมายผู้ใช้บริการควรมีอายุ มากกว่า 13 ปีบริบูรณ์ เนื่องจากเป็นช่วงอายุที่เข้าใจและสามารถใช้งานแอปพลิเคชั่นได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบันนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ถูกทบทวนครั้งล่าสุดเมื่อเดือน พฤษภาคม 2563

ช่องทางการติดต่อ

รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูล

บริษัท ทีซอฟท์สไมล์ จำกัด

website : www.tsoftsmile.com
e-mail : tsoftsmile@gmail.com

Version 2.0